รวมสาวสวย-สาระน่ารู้-วาไรตี้-ขำขัน-เทคโนโลยี

ในบรรดาปลาล่าเหยื่อในโลกใต้ทะเลนั้น นักดำน้ำมักรู้จักคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับเจ้าปลากะมง ปลาหากินกลางน้ำชนิดหนึ่ง หลายท่านอาจจะสงสัยว่า “เอ...ปลาอะไร ไม่หากินกลางน้ำบ้าง” ก็ต้องเรียนทำความเข้าใจว่า นักดำน้ำนั้นมักแบ่งปลาออกเป็นประเภทต่าง ๆ ตามแหล่งที่อยู่อาศัยของมัน เช่น “ปลาในแนวปะการัง” ซึ่งมักเป็นปลาสวยงามหลากหลายสีสันที่อาศัยอยู่ตามแนวปะการัง “ปลาหน้าดิน” พวกนี้เป็นพวกชอบใช้ชีวิตติดดิน อาศัยตามพื้นทราย ซอนไซ้หาอาหารไปเรื่อย และปลาอีกประเภทหนึ่งที่อาจไม่สามารถบอกได้ว่า เมื่อดำน้ำลงไปจุดนี้แล้วจะมีโอกาสพบเห็นหรือไม่ นั่นคือพวก “ปลากลางน้ำ” หรือปลาหากินกลางน้ำ เพราะเจ้าพวกนี้มีนิสัยชอบเร่ร่อนหากินอยู่กลางผืนน้ำ ไม่ได้อาศัยอยู่ประจำถิ่นตามกองหิน หรือแนวปะการังที่ใดที่หนึ่ง แต่มักจะว่ายแวะเข้ามาวนเวียนหาเหยื่อ รวมตัว หรือสังสรรค์จับคู่สืบสานเผ่าพันธุ์กันตามกองหิน หรือแนวปะการังเป็นครั้งคราว เจ้าปลากลางน้ำเหล่านี้มักเป็นปลาล่าเหยื่อ อย่างเช่น ปลาฉลาม ปลาสาก ปลาอินทรี ปลาโอ ปลากะมง เป็นต้น ปลากะมง ปลาที่ชาวประมงทางภาคใต้เรียกว่าปลามง หรือปลาโมงนั้น มีลักษณะตัวแบน ๆ หน้าตัด ท้ายลู่ ลำตัวสีเงินวาววับ หลาย ๆ คนอาจจะคุ้นเคย คุ้นหน้าคุ้นตา หรือคุ้นลิ้นตามร้านข้าวต้มกันบ้างแล้ว เพราะมักจะถูกนำมาเป็นปลาทอด หรือปลาเผาขึ้นโต๊ะอยู่บ่อย ๆ แต่ชาวใต้บอกต้องแกงเหลืองหรือแกงส้มถึงจะเด็ด เจ้าปลากะมงนั้นเป็นปลาเศรษฐกิจที่สำคัญชนิดหนึ่งของท้องทะเลไทย เพราะค่อนข้างจะมีปริมาณมาก ขยายพันธุ์รวดเร็ว เอ...เมื่อครู่ยังเป็นปลากลางน้ำ ตอนนี้กลายเป็นปลาเศรษฐกิจ คนเราทั้งนั้นที่เป็นผู้แบ่ง เจ้าปลากะมงคงไม่รู้เรื่องอะไรด้วย เจ้ากะมงนั้นเมื่อตัวเล็ก ๆ เป็นปลาเด็ก ๆ ขนาดเท่าฝ่ามือ หรือโตกว่านั้นหน่อยมักจะรวมตัวกันเป็นฝูงใหญ่นับร้อย ๆ หรือหลายร้อยตัว เรียกว่ามืดน้ำมัวแนวปะการังไปหมด จนเมื่อเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น หรือปลาวัยหนุ่มขนาดฟุตหนึ่ง หรือมากกว่านั้น ก็จะเริ่มแยกตัวออกเป็นกลุ่มย่อยขนาด 5 ถึง 10 ตัว ลักษณะคล้ายเป็นแก๊งจอมซ่าออกทำการล่าเหยื่อ (เอ...ดูร้าย ๆ อย่างไรชอบกล) เพื่อความคล่องตัวในการหาอาหาร เพราะหากเติบโตขึ้นแล้วยังรวมตัวกันอยู่เป็นร้อย ๆ มีหวังอดตายเพราะอาหารไม่พอเพียงกันเป็นแน่ ที่เรียกเจ้ากะมงเป็นแก๊งจอมซ่า เพราะลีลาการล่าเหยื่อของมันนั้น เป็นที่รู้จักกันดีของนักดำน้ำ เพราะมันจะค่อย ๆ ยกขบวนผ่านมาเหมือนแก๊งมอเตอร์ไซค์ เมื่อเจอเข้ากับฝูงปลาเล็กพวกปลากะตักสีเงินตัวขนาดปลายนิ้วก้อยที่รวมตัวกันนับหมื่นนับแสนมันก็จะปราดเข้าโจมตีอย่างว่องไว ก้าวร้าว ดุดัน พอเจ้ากะมงโฉบเข้ามาที ฝูงปลาเล็กก็จะตื่นหนีแหวกออกเป็นทาง เป็นช่องว่างตามตัวที่มันว่ายไป มันโฉบเข้าโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่า จนอิ่มหนำสำราญอย่างไม่เกรงอกเกรงใจ หรือหวั่นเกรงผู้ใด ไม่เว้นแม้กระทั่งช่างภาพใต้น้ำอย่างผม ที่เฝ้ามองมหกรรมการล่าอยู่อย่างใกล้ชิด ชนิดที่มันว่ายเฉียดหัวไปมาเหมือนผมเป็นเพียงก้อนหินก้อนหนึ่งเท่านั้น มีบ้างบางครั้งที่มันว่ายตรงดิ่งเข้ามาตรงหน้าจนเกือบจะชน พอสบตากับผมมันก็ชะงักแล้วเบนหัวออกไป แต่ก็ไม่วายจะเหลือบมองด้วยหางตาโต ๆ เหมือนจะถามว่า เอ๊ะ ผมมาเกะกะอะไรอยู่แถวนี้ อะไรทำนองนั้น มันคงไม่รู้หรอกว่าผมนี่แหละนักกินปลาตัวฉกาจ โดยเฉพาะแกงส้มปลากะมง เจ้าปลากะมงโฉบไปโฉบมาเข้าจู่โจมจนหนำใจแล้วว่ายจากไป ฝูงปลากะตักสีเงินวาวใสค่อย ๆ ขยายกลุ่มแผ่กว้างออกปกคลุมกองหินจนเป็นสีเงินทั่วทั้งกองเช่นเดิม เข้าสู่สภาวะแห่งความเงียบสงบอีกครั้ง มันออกจะดูไม่เป็นธรรมนักที่จะบอกว่า เจ้าปลาขนาดเล็กนับหมื่นนับแสนเหล่านี้เกิดมาเพื่อเป็นเหยื่อ เป็นชีวิตชั้นล่างของห่วงโซ่อาหาร เป็นชีวิตเล็ก ๆ ไม่มีสิ่งใดที่จะปกป้องตัวเองได้เลยนอกจากการรวมฝูง แล้วรอคอยอย่างหวาดหวั่นว่า การถูกไล่ล่าครั้งต่อไป ใครจะเป็นผู้รับชะตากรรม การรวมตัวของปลากะมงที่อยู่กันเป็นฝูงใหญ่นับร้อยนับพันตัวก็เช่นกัน เป็นการรวมตัวกันเพื่อความอยู่รอดแบบรวมกันเราอยู่เช่นกัน ( แต่จะอยู่ครบหรือไม่ครบก็เป็นอีกเรื่อง ) เพราะปลากะมงที่ถือว่าเป็นนักล่าที่น่ากลัวของปลาขนาดเล็กนั้น ยังต้องถูกล่าจากปลาที่มีขนาดใหญ่กว่า เช่นปลาสาก ปลากระโทง หรือปลาฉลาม เข้าตำราปลาใหญ่กินปลาเล็ก และกินกันต่อ ๆ มาเป็นลำดับตามห่วงโซ่อาหารโดยมีฉลามเป็นปลาที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร แต่ในห่วงโซ่อาหารนั้นคนเราก็เข้าไปมีส่วนร่วมกินกับเขาด้วยเหมือนกัน โดยแทนที่จะเป็นนักกินที่อยู่บนยอดสุดของห่วงโซ่อาหาร แต่กลับกินมันได้ทุกห่วงทุกข้อของโซ่อาหาร เรียกว่าไล่ดะจากปลากะตัก ปลาชิงชั้ง ปลากะมง ปลาสาก ไปจนถึงปลาฉลาม ปลากะมงจึงมักต้องรวมกันเป็นฝูงใหญ่ ๆ โดยเฉพาะกะมงขนาดเล็ก ๆ เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของปลาใหญ่ชนิดอื่นๆได้โดยง่าย ผมเองเคยพบเจ้ากะมงฝูงใหญ่นับพัน ๆ ตัวว่ายเรียงรายกันเป็นขบวนบริเวณกองหินริเชลิว กองหินใต้น้ำใกล้ๆหมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา ซึ่งเมื่อขบวนของเจ้ากะมงว่ายผ่านมานั้น มันดูลายตาไปหมด ชนิดมืดฟ้ามัวดินเลยทีเดียว ยิ่งเมื่อลำตัวสีเงินของมันต้องแสงวาววับยิ่งทำให้ศัตรูที่จะเข้ามาจู่โจมถึงขนาดต้องช่างใจว่าจะลุยดีหรือไม่ดี เพราะการเข้าไปอยู่ท่ามกลางฝูงกะมงนับร้อยนับพันนั้น บางครั้งปลาใหญ่อาจจะต้องเสียท่าเสียเอง การรวมฝูงจึงนับเป็นทางรอดหนึ่งของสรรพชีวิตในท้องทะเล ผมเคยดำน้ำเคลื่อนตัวเข้าไปท่ามกลางฝูงกะมงนับพันเพื่อถ่ายภาพ เมื่อเคลื่อนเข้าไปใกล้แล้วกดชัตเตอร์ แสงไฟจากแฟลชสว่างวาบสะท้อนสีเงินวาววับข้างลำตัว ช่างเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจยิ่ง เมื่อลอยตัวเข้าไปใกล้ ฝูงปลากะมงก็จะแหวกตัวเพื่อรักษาระยะห่าง จึงทำให้ผมลอยตัวเข้าไปอยู่กลางวงล้อมของฝูงปลานับพันที่ว่ายวนอยู่รอบตัวราวกับหลุดหลงเข้าไปอยู่ใจกลางของพายุทอนาโด พายุฝูงปลากะมงว่ายวนเวียนรอบตัวอยู่ช่วงครู่ก็ค่อยๆเคลื่อนผ่านพ้นไป